เมื่อเราเข้าไปในโซเชียลมีเดีย ในช่วงฤดูหนาว เรามักจะได้เห็นการนำลูกสีเขียวแก่ มาผ่าครึ่งแล้วตักรับประทาน ผลไม้ชนิดนั้นก็คืออะโวคาโด ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถนำมาทำเมนูได้หลากหลายทั้งของคาวและของหวาน แล้วเจ้าอะโวคาโดที่ว่านี้มีที่มาอย่างไร วันนี้ไปดูพร้อมๆ กันเลย
อะโวคาโด (avocado) หรือลูกเนย (ลักษณะเนื้อมันเป็นเนย) เป็นต้นไม้พื้นเมืองของรัฐปวยบลาในประเทศเม็กซิโก จัดเป็นพืชดอกในวงศ์ Lauraceae ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกับ อบเชย, กระวาน และ เบย์ลอเรล (bay laurel) ผลของ อาโวคาโด หรือ alligator pear (สาลี่จระเข้) มีรูปทรงคล้ายสาลี่ รูปไข่ หรือรูปกลม มิชชันนารีชาวสหรัฐนำมาปลูกในประเทศไทยครั้งแรกที่ จังหวัดน่าน ต่อจากนั้น จึงมีหน่วยงานต่างๆนำอาโวคาโดมาปลูกมากขึ้น โดยอาโวคาโดนั้น เป็นไม้ยืนต้น ต้นโตเต็มที่สูงถึง 18 เมตร เปลือกต้นสีน้ำตาลอ่อน ผิวขรุขระ ใบสีเขียวสด ดอกขนาดเล็ก สีเขียวอมเหลือง ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งผลกลมรีหรือทรงลูกแพร์ มีทั้งพันธุ์เปลือกหนาและเปลือกบาง เนื้อมีตั้งแต่เหลืองอ่อนจนถึงเหลืองเข้ม รสมัน เนื้อละเอียด ไม่มีกลิ่น มีเมล็ดเดียว มีรกหุ้มเมล็ด
อโวคาโดมีประโยชน์อยู่หลากหลาย เช่น วิตามินอี ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยงามไม่แก่เร็ว ที่สำคัญกินแล้วจะไม่เป็นหมัน ป้องกันหวัด เลือดออกตามไรฟัน, วิตามินเอบวกสารเบต้าแคโรทีน บำรุงสายตา, มีโปรตีนสูงกว่าผลไม้ชนิดอื่น แต่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ, มีวิตามินบี แก้อาการเหน็บชา และเป็นไขมันดี มีประโยชน์ลดไขมันในเลือด กินแล้วลดน้ำหนักได้ดี แต่ถ้าหากกินมากเกินไปจากได้ประโยชน์ก็อาจจะได้โทษกลับมาก็ได้นะ แล้วการกินอโวคาโดให้ได้ประโยชน์จะต้องทำอย่างไร มาดูพร้อมๆ กันเลย
- กินอโวคาโด 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์จะช่วยลดน้ำหนักได้
หลายคนมักแนะนำให้ทานอาโวคาโดในช่วงที่ลดน้ำหนัก เพราะอโวคาโดนั้นเป็นผลไม้ที่สามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้ การกินอโวคาโดนั้นจะช่วยทำให้คุณอิ่มนานขึ้น ไม่รู้สึกอยากกินอะไรที่จุกจิกระหว่างวัน ทั้งยังมีเส้นใยสูงแต่คาร์บต่ำจึงทำให้สามารถเป็นอีกแรงในการช่วยลดน้ำหนักได้
- ใช้อโวคาโดแทนวัตถุดิบอื่น
เช่นการใช้อโวคาโดทาบนขนมปังแทนเนย จะสามารถช่วยเพิ่มกากใยเสริมระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น เพราะอโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีกากใยสูงถึง 7% ต่อ 100 กรัมเลยทีเดียว อีกอย่างไฟเบอร์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญต่อการลดน้ำหนักและการเผาผลาญพลังงานด้วย
- กินเป็นประจำจะช่วยลดน้ำตาลในเลือด
การกินอโวคาโดเป็นประจำ 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคเบาหวาน เพราะไขมันอิ่มตัวของอโวคาโดนั้นสามารถเข้าไปชะลอการไหลเวียนของน้ำตาลในเลือด ทั้งยังช่วยลดภาวะต้านของอินซูลินได้ด้วย
ไม่ว่จะเป็นอาหารประเภทไหน แม้ว่าจะมีคุณประโยชน์มากมาย แต่ถ้าเราทานในปริมาณที่มากจนเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดโทษได้ สำหรับอะโวคาโดแล้ว เป็นแหล่งไขมันดีที่ควรทานสักครั้ง และสามารถนำมาทำเป็นเมนูอื่นๆ เช่นแซนวิชอะโวคาโด สลัดอะโวคาโด เป็นต้น